วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์

ลักษณะของการตั้งถิ่นฐาน 
 การตั้งถิ่นฐาน สามารถจำแนกได้เป็น ๒ ลักษณะ คือ การตั้งถิ่นฐานในเมือง และการตั้งถิ่นฐานในชนบท 
  •          การตั้งถิ่นฐานในเมือง
  •          การตั้งถิ่นฐานในชนบท

              การตั้งถิ่นฐานในเมือง 
                          ถิ่นฐานใดจะมีลักษณะเป็นเมืองนั้น  มีองค์ประกอบในการพิจารณาโดยทั่ว ๆ  ไป คือจำนวนประชากร ความหนาแน่นของประชากรและอาชีพของประชากร   สำหรับประเทศไทยมิได้กำหนดสัดส่วนแน่นอน  แต่ใช้นิยามของคำว่า  "เทศบาล"  และ "สุขาภิบาล" แทน โดยถือว่าเขตเทศบาลและเขตสุขาภิบาลเป็นเขตเมืองซึ่งในชุมชนหนึ่ง ๆ จะประกอบด้วยการใช้ที่ดินประเภทต่าง ๆ  ดังนี้ ที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ที่โล่งเพื่อนันทนาการ สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา และสถาบันราชการ
          
เมื่อมนุษย์อยู่รวมกลุ่มกันเป็นเมือง  หากไม่มีการวางแผนการเติบโตของเมืองแล้ว  ย่อมก่อให้เกิดปัญหาต่อการดำรงชีวิต  การวางแผนสำหรับการเติบโตของเมืองนี้เรียกว่า  การวางผังเมือง ซึ่งนับเป็นกลไกที่จำเป็นต่อการปรับปรุงสภาพปัจจุบัน    และเป็นแผนรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต องค์ประกอบที่นำมาใช้ในการวางผังเมืองมีดังนี้
          
ก. ปัจจัยทางธรรมชาติ  เช่น  พื้นที่เป็นที่สูง  ที่ลุ่มหรือมีการทรุดตัวของพื้นดิน
          
ข. การเพิ่มประชากร การจำกัดจำนวนประชากร และการกระจายตัวประชากรไปยังพื้นที่เป้าหมาย
          
ค. สังคมและเศรษฐกิจ เป็นการกำหนดขนาดของเมือง โดยนำปัจจัยทางเศรษฐกิจมาพิจารณาด้วยว่าเมืองควรมีขนาดเท่าใด  ควรขยายไปในทิศทางใด เป็นต้น
          
ง. การใช้ประโยชน์ที่ดิน  เมืองที่ขาดการวางผังและขาดการควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดิน   ย่อมขยายตัวออกไปอย่างไร้ทิศทางและเกิดความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ที่ดิน  รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ  ตามมา  เช่น แผ่นดินทรุด  น้ำท่วม เป็นต้น การวางผังเมืองจำเป็นต้องกำหนดย่านการใช้ประโยชน์จากที่ดินตามลักษณะกิจกรรมและความสัมพันธ์ที่มีต่อกันแล้วนำผังออกสู่การปฏิบัติเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเมืองต่อไป
          
จ. สิ่งแวดล้อม การพัฒนาเมืองที่ปราศจากการป้องกันหรือควบคุมปัญหาสิ่งแวดล้อมย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ 


          


                           การตั้งถิ่นฐานในชนบท 
          ในพื้นที่นอกเหนือจากเขตเทศบาลและสุขาภิบาลดังกล่าวทั้งหมดข้างต้น  เมื่อมีการตั้งถิ่นฐานเกิดขึ้นก็จะเรียกว่าการตั้งถิ่นฐานในชนบท  ซึ่งสามารถจำแนกรูปแบบสำคัญได้เป็น ๒ รูปแบบ คือ
          
ก. การตั้งถิ่นฐานแบบรวมกลุ่ม การตั้งถิ่นฐานแบบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะได้อยู่ในสังคมที่ใกล้ชิดกัน  ซึ่งอาจมีสาเหตุเนื่องมาจากลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ลักษณะของการเกษตร แหล่งน้ำ หรือเพื่อป้องกันอันตรายเป็นต้น
          ข.การตั้งถิ่นฐานแบบกระจาย จะมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวหรือกลุ่มบ้านสองสามหลังตั้งกระจายห่างไกลจากเพื่อนบ้าน  มักพบในบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดปัญหาที่สำคัญบางประการ  ตัวอย่าง เช่นการจัดบริการสาธารณะ เช่น ถนน ไฟฟ้าเป็นต้น ซึ่งต้องลงทุนสูงกว่าในเขตที่อยู่อาศัยแบบรวมกลุ่ม       


                   


                 ที่มา