วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ระบบสารสนเทศ

ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ( Geographic Information System )
          ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ หรือ Geographic Information System : GIS คือกระบวนการ    ทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้กำหนดข้อมูลและสารสนเทศ ที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่ เช่น ที่อยู่ บ้านเลขที่ สัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนที่ ตำแหน่ง เส้นรุ้ง เส้นแวง ข้อมูลและแผนที่ใน GIS เป็นระบบข้อมูลสารสนเทศที่อยู่ในรูปของตารางข้อมูล
และฐานข้อมูลที่มีส่วนสัมพันธ์กับข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Data)
 ซึ่งรูปแบบและความสัมพันธ์ของข้อมูลเชิงพื้นที่ทั้งหลาย
จะสามารถนำมาวิเคราะห์ด้วย GIS และทำให้สื่อความหมาย
ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับเวลาได้ เช่น
การแพร่ขยายของโรคระบาด การเคลื่อนย้าย ถิ่นฐาน
 การบุกรุกทำลาย การเปลี่ยนแปลงของการใช้พื้นที่ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้
เมื่อปรากฏบนแผนที่ทำให้สามารถแปลและสื่อความหมาย ใช้งานได้ง่าย
          
จำแนกข้อมูลออกเป็นประเภท จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ  1. ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) หมายถึง ข้อมูลที่ได้จากการรวบรวม หรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรงซึ่งอาจจะได้จากการสอบถาม การสัมภาษณ์ การสำรวจและการจดบันทึก ตลอดจนการจัดหามาด้วย เครื่องจักรอัตโนมัติ เช่น เครื่องอ่านรหัสแท่นเครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก 2. ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) หมายถึง ข้อมูลที่มีผู้อื่นรวบรวมไว้ให้แล้ว บางครั้งอาจมีการประมวลผลเพื่อเป็นสารสนเทศ   เช่น    สถิติจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด สถิติการนำสินค้าเข้า และการส่งสินค้าออก เป็นต้น

แหล่งที่มาของข้อมูล
   ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data)
คือข้อมูลใดๆ ที่ผู้ศึกษาต้องเก็บขึ้นมาใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ ของการวิจัยนั้นโดยเฉพาะ (ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่เกิดจากคำถามในการวิจัย)
1).การสำรวจภาคสนาม

-การสัมภาษณ์                                                                   
-การสังเกต
-การใช้แบบสอบถาม
2).การทดลอง
   ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data)
      เป็นข้อมูลสถิติซึ่งเก็บรวบรวมมาก่อนแล้วเพื่อจุดมุ่งหมายอื่นซึ่งอาจจะเอามาใช้ประกอบในงานวิจัยได้ หรือหมายถึงข้อมูลที่ได้จัดพิมพ์มาแล้วเพื่อจุดมุ่งหมายอื่นไม่ใช่เพื่อจุดมุ่งหมายในการศึกษาปัจจุบัน
-       ข้อมูลทุติยภูมิอาจจะอยู่ในระบบข้อมูลภายในธุรกิจ เช่น รายงานสำรวจการขายจากใบสั่งซื้อของลูกค้า อาจจะต้องอาศัยจากภายนอก เช่น ห้องสมุดธุรกิจ ข้อมูลสถิติของรัฐบาล รายงานจากสมาคมการค้า ฯลฯ
            สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารที่ได้จากการนำ ข้อมูลดิบ (raw data)        มาคำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้ข้อมูล และสารสนเทศ




ความแตกต่างของข้อมูลและสารสนเทศ
           ความแตกต่างของข้อมูลและสารสนเทศ คำว่า ข้อมูล(Data) และสารสนเทศ” (Information) นั้นมีความหมายแตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูลหมายถึง ข้อเท็จจริงทั่ว ๆ ไปที่มีอยู่ซึ่งทำการเก็บรวบรวมมาได้ โดยข้อเท็จจริงนี้เป็นบุคคล วัตถุ สิ่งของ เหตุการณ์ หรือสถานที่และข้อมูลดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบที่เป็นตัวเลข ตัวหนังสือ หรือสถานที่ รูปภาพหรือเสียงก็ได้ สำหรับ สารสนเทศนั้นหมายถึง ข้อมูลที่ได้รับการประมวลผลให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้อ้างอิง ดำเนินงาน หรือตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด โดยสารสนเทศนี้อาจอยู่ในรูปแบบที่เป็นตัวเลข  ตัวหนังสือ รูปภาพ หรือเสียงได้
 
              ข้อมูล การประมวลผล สารสนเทศ เพื่อให้เห็นภาพของข้อมูลและสารสนเทศชัดเจนขึ้น จะขอยกตัวอย่างเรื่อง เกรดเฉลี่ยของนักเรียนในแต่ละภาคเรียน ซึ่งเกรดเฉลี่ยนั้นจะได้จากการนำเกรดในแต่ละวิชาที่นักเรียนลงเรียนมาทำการประมวลผล ดังนั้น ในที่นี้เกรดแต่ละวิชาของนักเรียนจึงเป็นข้อมูลในขณะที่เกรดเฉลี่ยของนักเรียนเป็น สารสนเทศอย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงหนึ่ง ๆ อาจเป็นได้ทั้งข้อมูลและสารสนเทศก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะใช้ข้อเท็จจริง   นั้น ๆ งานได้ทันที
  รูปแบบเชิงพื้นที่
1. การกระจุกตัวที่อยู่ในพื้นที่ (Spatial Distribution) เป็นการกระจัดกระจายตัวหรือการกระจุกตัวที่อยู่ในพื้นที่ จะอยู่ในลักษณะที่กระจุกตัวบางพื้นที่หรือแยกกระจายอาจจะอยู่ใกล้กันหรือไกลกันขึ้นอยู่กับบริเวณพื้นที่ต่างๆ เช่น    การกระจายตัวของสัตว์ป่า การกระจายตัวของชุมชน

2. ความแตกต่างในเชิงพื้นที่ (Spatial Differentiation )หมายถึง ในพื้นที่แต่ละพื้นที่
จะมีลักษณะเฉพาะทางกายภาพและชีวภาพต่างกันและพื้นที่นั้นยังมีทรัพยากรที่มีความหลากหลาย
ต่างกันตามลักษณะของพื้นทีเช่น ความแตกต่างทางด้านภูมิประเทศบริเวณที่เป็นพื้นที่ราบและ
บริเวณภูเขาในพื้นที่จะมีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน พื้นที่แต่ละส่วนจะไม่เหมือนกันในหลายประการ
 อาจเป็นสิ่งแวดล้อม พื้นที่สูง-ตำของแต่ละบริเวณนั่นๆ
3. การแพร่กระจายในเชิงพื้นที่ (Spatial Diffusion)   หมายถึง  เป็นการกระจายจากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่ง อาจจะเป็นการอพยพย้ายถิ่นฐาน หรือมีการกระจายของสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วกระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ การแพร่กระจายของเชื้อโรค จากที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง ที่อยู่ห่างออกไป โดยอาจอาศัยคนเป็นตัวพาหะใน
การแพร่กระจาย



4.  ปฏิสัมพันธ์ในเชิงพื้นที่ (Spatial Interaction) หมายถึง เป็นการกระทำร่วมกันของสองสิ่งที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องหรือกระทำร่วมกัน เช่น บริเวณที่มีป่าใหญ่ก็จะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เยอะ    
พื้นที่ที่ทำกิจกรรมจะสัมพันธ์กับพื้นที่อื่นและพื้นที่นั้นๆ ในแต่ละส่วนของกิจรรม                                     
จะแยกออกตามเขตพื้นที่ของตัวเองในพื้นที่แต่ละส่วน
  





5. การเปลี่ยนแปลงของช่วงเวลาในเชิงพื้นที่ (Spatial Temporal )  หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของช่วงเวลาในเชิงพื้นที่ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิประเทศในช่วงวันที่ 1-10 มิถุนายน ช่วงเวลาในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันออกไปในช่วงของการแบ่งเขตเวลา การกระทำหรือกิจกรรมที่ก็จะต่างกันออกไปตามช่วงเวลาของพื้นที่แต่ละส่วน
ทฤษฏีทั้ง 5 นี้ มีความสัมพันธ์กันอย่างมากจะขาดทฤษฏีใดไม่ได้


อ้างอิงจาก
http://blog.eduzones.com/siranee/33962
http://blog.eduzones.com/siranee/33962





              GIS ประกอบด้วยคำ 2 คำ คือ "ระบบสารสนเทศ" (Information System) และคำว่า "ทางภูมิศาสตร์" (Geographic Geographical) ระบบสารสนเทศ เป็นการปฏิบัติการรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นขั้นตอน สามารถสืบค้นข้อมูลที่ต้องการได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว สามารถนำข้อมูลที่เป็นผลจากการวิเคราะห์ไปใช้ในกระบวนการตัดสินใจของผู้บริหารในการปฎิบัติงานใด ๆ เปรียบเสมือนเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริหาร ภูมิศาสตร์ (Geographic) มาจากรากศัพท์ Geo หมายถึงโลก และ Graphic หมายถึงงานเขียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น